ความขยันแบบผิด ๆ ถึงจะตั้งใจทำงาน เรียกว่า“ขยันแบบคนโ ง่”
ขงจื้อ เคยได้กล่าวไว้เมื่อประมาณสองพันปีก่อนว่า คนฉลาดและขยันควรส่งเสริมให้เป็นแม่ทัพคนสำคัญ คน
ฉลาดและขี้เกียจ ควรเลี้ยงไว้ให้เป็นแค่ทหารฝ่ายเสนาธิการ
คอยวางแผนอยู่เบื้องหลัง คนที่โง่และขี้เกียจควรเก็บไว้ใช้สอยทำงานตามคำสั่งก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเจอคนโง่
และยังขยันอีก จะเอาไปทิ้งเพราะจะทำให้เสียงาน เสียการเปล่าๆ
และจะก่อความเดือดร้อนให้ไม่รู้จักจบรู้จักสิ้น ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นคนฉลาดหรือโง่ การขยันแบบไม่รู้จักเว
ล่ำเวลา ขยันทำในสิ่งที่ผิดๆ ทำผิดซ้ำแล้ว
ซ้ำเล่า ก็จะสร้างแต่ความเสียหายได้มากกว่าก่อให้เกิดประโยชน์ การใด เริ่มตั้งแต่วันนี้ก็ยังไม่สาย เลิกทำสิ่งที่
ไม่เกิดประโยชน์ เลิกทำในสิ่งที่ยังผิด หาเวลาและเหตุผลดีๆ
ไปปรับตัวปรับนิสัยของตัวเอง
ประการที่ 1 อย่าหักโหม
สำหรับการหักโหมทำงานโต้รุ่ง หามรุ่งหามค่ำ เป็นการทำลายความคิดในการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ เพราะเมื่อ
สมองเบลอแล้วนั้น ไม่มีทางที่จะคิดเรื่องอะไรออก
เรื่องนี้บอกเลยว่า คือเรื่องจริง เพราะทางนักวิทยาศาสตร์ได้วิจัยในส่วนของการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จะ
ทำให้สมองนั้นไม่สามารถไปกระตุ้นในส่วนของการ สร้างสรรค์และการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้
ประการที่ 2 ครอบครัวคือที่ 1
ครอบครัวต้องมาก่อน อย่าปล่อยให้งานทำชีวิตพัง ความก้าวหน้าทางการงาน อาจสำคัญสำหรับใครหลายๆ คน
แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว เทียบไม่ได้เลยกับการมีครอบครัว
อบอุ่นน่ารัก เพราะไม่ว่า ยามสุขหรือทุกข์พวกเขาคือคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเราจริงๆ
ประการที่ 3 ใช้สมอง
การที่ขยันทำงานเน้นปริมาณโดยที่ไม่ใช้สมอง ไม่มีทางทำให้เกิดงานที่มีคุณภาพดีได้ ลองเปลี่ยนวิธีการทำงาน
ซะใหม่ คิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะลงมือทำการใด และจัดอันดับ
ความสำคัญให้เป็น เชื่อเลยว่า งานจะเสร็จเร็วกว่าเดิม แถมยังได้งานที่ดีและมีคุณภาพ ไม่ใช่สักแต่ว่าทำไปวัน ๆ
โดยไม่รู้จักการวางแผนงาน
ประการที่ 4 แบบอย่างที่ดี
ถ้าคุณเป็นเจ้านายคน ควรเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกน้องโดยเฉพาะการบริหารจัดการเวลา คนที่ทำงานเป็นไม่
จำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ในออฟฟิศจนดึกดื่น เพื่อให้ได้ผลงานน้อยนิด
ประการที่ 5 อย่าขยันผิดเวลา
การขยันทำงานตอนไฟลนก้นทำให้อารมณ์เสีย และทำลายความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง ลองจัดสรรเวลา
ทำงานใหม่ โดยเตรียมงานไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วคุณจะไม่ต้องปรี๊ดแตก ใส่ใคร ต่อใครให้เสียบรรยากาศ
ประการที่ 6 สุขภาพ
การขยันทำงานหามรุ่งหามค่ำ บั่นทอนสุขภาพให้ทรุดโทรม ตัวอย่างสุดช็อกเกิดขึ้นปลายปีที่แล้ว เมื่อสาวน้อย
ก๊อบปี้ไรเตอร์โฆษณาชาวอินโดนีเซีย “มิต้า ดิแรน” วัย 24 ปี
หัวใจวายคาโต๊ะ หลังทำงานหนักติดต่อกัน 30 ชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพัก
ประการที่ 7 ใจเย็น
หยุดคิดสักนิด แล้วจะรู้ว่างานส่วนใหญ่ที่บ้าทำตอนนี้ แทบไม่มีความสำคัญอะไรเลย มนุษย์เงินเดือนจำนวนมาก
ก้มหน้าก้มตาทำงานซ้ำๆ อยู่ในออฟฟิศวันละหลายชั่วโมง
โดยไม่เคยถาม ตัวเองว่า สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ มีประโยชน์กับชีวิตมากน้อยแค่ไหน ทำให้เราพัฒนาขึ้นหรือ
เปล่า และให้อะไรกับสังคมบ้าง?
ขอบคุณที่มา : P o s t s a r a