– เริ่มจากเลือกกล้วยกันก่อน ควรใช้กล้วยแก่จัดที่สุกเปลือกเป็นสีเหลือง แต่ไม่ใช่กล้วยที่สุกงอม หรือกล้วยที่เปลือกยังเป็นสีกระดังงา (เหลืองปนเขียว)

– นำไปเรียงบนภาชนะที่จะตาก ควรมีฝาปิดด้วยนะคะเพื่อป้องกันแมลงและฝุ่นละออง กล้วยยังไม่ต้องไปกดไปทับใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ

– ตากตอนเช้า พอตกเย็นก็เก็บค่ะ
วิธีการเก็บให้กดกล้วยให้แบนลงนิดหน่อย แล้วเก็บใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่น กล้วยเมื่อถูกความร้อนจากการตากก็จะเริ่มนุ่ม เกิดความชื้นและความร้อนที่ตัวกล้วย เพราะในกล้วยมีแป้งเมื่อถูกความร้อน จะเปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาล

– วันที่ 2 – 3 ก็เอากล้วยออกจากถุง นำไปตากใหม่ แล้วเก็บเข้าถุงมัดให้แน่นเช่นเดิม น้ำหวานของกล้วยจะออกมา และหลังการตากในแต่ละวันสีกล้วยจะเริ่มเหลือง เป็นสีน้ำตาลขึ้นเรื่อย ๆ

– วันที่ 4 กล้วยแห้งสนิทสีเข้มขึ้น วันนี้ก็ทานได้แล้วนะคะ เพียงง่าย ๆ เท่านี้เราก็ได้กล้วยตากอร่อย สะอาดไว้รับประทานค่ะ กล้วยตากที่ได้จะมีความนุ่มนวล หวานอร่อย สีสันสวยงามมีความฉ่ำเงางามเหมือนเคลือบน้ำผึ้ง
(แต่ถ้าแดดไม่จัด อาจจะต้องเพิ่มเวลาตากเป็นวันที่ 5 นะคะ สำหรับการใช้เครื่องอบแห้งก็ประมาณ 3 วันค่ะ)

– การจัดเก็บ ถ้าทำในปริมาณมาก เมื่อแห้งสนิทควรเก็บในถุงรัดให้แน่นใส่กล่องทึบแสงเพื่อไม่ให้กล้วยทำปฏิกิริยาเปลี่ยนสีเร็ว เก็บได้นาน 3 เดือนโดยสีไม่เปลี่ยนค่ะ